เจ้าหน้าที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่5ภูเก็ตร่วมกับสถานีตำรวจน้ำ3กองกำกับการ8 กองบังคับการตำรวจน้ำจับกุมชาวไทยใหม่ชุมชนราไวย์ลักลอบจับปลาสวยงามปะการังดอกไม้ทะเลและกัลปังหา
เมื่อเวลาประมาณ 10.30น.วันที่ 7 มีนาคมนี้ นายไพฑูรย์ แพชัยภูมิ ผู้อำนวยการ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต นายประจวบ โมฆรัตน์ เจ้าพนักงานประมงชำนาญการและคณะ พร้อมด้วยร้อยตำรวจโทณัฐพงศ์ พฤกษ์ธาราธิกูล รองสารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำร่วมกันจัดวางกำลังไว้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต สถานีบริการน้ำมัน ตลอดจนที่จอดรถประจำทางสำคัญต่างๆหลังจากสืบทราบว่า จะมีกลุ่มลักลอบจับปลาสวยงามพยายามลำเลียงขึ้นรถร่วมโดยสารปรับอากาศสีส้มเส้นทางภูเก็ต-กรุงเทพมหานครและในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถโดยสารคันหนึ่งจนกระทั่งไปจอดใกล้ที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนเทพกระษัตรี ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตที่เคยใช้เป็นสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต อาคารเพิ่มสินธานี มาก่อน นอกจากนี้ มีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ป้ายทะเบียน บท8186ภูเก็ตกระบะหลังคลุมผ้าพลาสติกสีดำที่ส่อพิรุธจอดรออยู่ก่อนแล้วและเจ้าหน้าที่ จึงแสดงตนขอเข้าตรวจค้น
ทั้งนี้ เมื่อเอาผ้าพลาสติกออก เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบลังโฟมสีขาว จึงให้ผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว เปิดลังทั้งหมด ปรากฏว่า ภายในลังโฟม 15 ลังและ 1 กระสอบ โดยมีการใช้ถุงพลาสติกใส บรรจุปลาสวยงามนานาชนิด 80 ถุง ปะการังและดอกไม้ทะเลชนิดต่างๆ 20 ถุง รวมทั้ง กัลปังหาอีก 3 ถุง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวนายพิชิต บางจาก อายุ 35 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน ในจำนวนนี้ มีเยาวชนอายุเพียง14 ปี16ปีและ17ปีรวมอยู่ด้วยพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่าครอบครองปลาทะเลสวยงามที่จับในเขตห้ามตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตามมาตรา 45 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 โทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ส่งมอบของกลางทั้งหมดให้ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ตเพื่อนำไปตรวจนับและอนุบาลไว้ที่สถาบันวิจัยชีววิทยาและประมงทะเล แหลมพันวา ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต ก่อนที่จะนำไปไว้ที่ถิ่นกำเนิดเมื่อคดีสิ้นสุดต่อไป
ร้อยตำรวจโทณัฐพงศ์ พฤกษ์ธาราธิกูล รองสารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำกล่าวว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาจะไปจับปลาสวยงามและเก็บปะการังและกัลปังหาทั้งในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ตเช่นเกาะราชาใหญ่และบริเวณพื้นที่อนุรักษ์ใกล้เคียง รวมทั้ง บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา หลังจากนั้นจะนำมาเก็บพักและรวบรวมเอาไว้ให้เพียงพอกับประเภท จำนวนหรือปริมาณ ที่กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในตลาดนัดจตุจักร ตลอดจนอควอเรี่ยมต่างๆที่อยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี
นอกจากนี้รองสารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำระบุด้วยว่าทางผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ได้กำชับ ให้ติดตามขยายผลการจับกุมคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำลายล้างทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลทุกรูปแบบ ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า กลุ่มผู้ต้องหา มีการทำงานเป็นขบวนการและเป็นกลุ่มเดียวกันกับคดีที่ผ่านมาและมีสถานที่เก็บพักสัตว์และพืชทะเลในพื้นที่ชายทะเล ก่อนที่จะรวบรวมส่งมอบให้กับผู้สั่งซื้อ หรือ มีใบสั่งมาจากทุกพื้นที่ ที่มีการเปิดเป็นอควาเรี่ยมเพื่อการค้าต่างๆ ทั่วประเทศ
สำหรับการสนธิกำลังร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ตเมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุม ชาวไทยใหม่ชุมชนราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ได้มากถึง 10 คน พร้อมของกลางเรือหางยาว 2 ลำที่บริเวณทะเลปลายแหลมพรหมเทพพบปลาสวยงามหายาก บรรจุถุงพลาสติก 200 ถุง หอยนานาชนิด และปะการังกัลปังหา ดอกไม้ทะเล บรรจุอยู่ในกล่องโฟม อีก 10 กล่องด้วย
ข้อมูลจาก :: ชัยวุฒิ พวงสุวรรณ สวท.
----------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น