วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รณรงค์สวมหมวกนิรภัยในเขตเทศบาลนครภูเก็ต 100%
ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รณรงค์สวมหมวกนิรภัยในเขตเทศบาลนครภูเก็ต 100% ดีเดย์จับปรับทั้งคนขับและผู้ที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย 1 ก.ค.นี้
พล.ต.ต. พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพการจราจรในเขตเทศบาลนครภูเก็ตได้เพิ่มความหนาแน่นตามลำดับ รวมไปถึงจำนวนยานพาหนะที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นผู้ใช้รถใช้ถนนยังมีพฤติกรรมในการขับขี่ที่ขาดวินัยจราจร ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจราจรและเกิดการสูญเสียตามมา สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ในฐานะผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการจราจรในเขตเทศบาลนครภูเก็ต มีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในการลดอัตราการสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ โดยทำ “โครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยในเขตเทศบาลนครภูเก็ต 100%” ขึ้นเป็นพื้นที่นำร่องในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้เพื่อปลูกฝังให้ประชาชนทั่วไป ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนน ลดอุบัติเหตุจราจรที่เกิดขึ้นจากผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปลูกฝังวินัยจราจรให้กับผู้โดยสาร โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองใช้รถจักรยานยนต์ไปส่งยังโรงเรียน หรือไปยังสถานที่อื่นๆให้รู้วิธีการสวมหมวกนิรภัยที่ถูกวิธี รวมทั้งกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของความปลอดภัยแก่ผู้ที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
พล.ต.ต.พิกัด กล่าวอีกว่า ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินโครงการ “รณรงค์สวมหมวกนิรภัยในเขตเทศบาลนครภูเก็ต 100%”ไว้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-30 กันยายน 2553 โดยในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 เป็นช่วงของการตักเตือนและประชาสัมพันธ์โครงการฯ หลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป จะดำเนินการจับและปรับอย่างจริงจังกับผู้ที่ฝ่าฝืนวินัยจราจร ซึ่งในการจับปรับนั้นในส่วนของผู้ขับขี่กรณีที่มีผู้นั่งซ้อนท้ายไม่สวมหมวกนิรภัยจะถูกปรับเป็นสองเท่าของผู้ที่นั่งซ้อนท้าย คือ 1,000 บาท ส่วนผู้นั่งซ้อนท้ายจะถูกปรับ 500 บาท ฉะนั้นถ้าผู้ขับขี่รายได้ไม่อยากเสียค่าปรับดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างก็ให้เตรียมหมวกนิรภัยไว้ให้กับผู้โดยสารด้วย
“มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ถูกเรียกตรวจเนื่องจากไม่สวมหมวกนิรภัยไม่ต่ำกว่า 3,000 รายต่อเดือน นอกจากนี้ในแต่ละปี มีอุบัติเหตุบนท้องถิ่น เกิดขึ้นประมาณ 80% จากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ แต่ถ้าหากโครงการฯ ดังกล่าวทำสำเร็จ เชื่อว่าจะลดการบาดเจ็บและการสูญเสีย ได้มากพอสมควร” พล.ต.ต.พิกัด กล่าว
ข้อมูลจาก :: เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น