ตำรวจภูธรภาค 8 ห่วงสถานการณ์ยาเสพติดในภาค 8 ระบาดหนักระบุปี 53 จับสูงถึง 20,000 ราย ภูเก็ตจับมากเป็นอันดับต้นๆ ระบุนำรถเอกซเรย์มาใช้ที่ด่านตรวจภูเก็ตสกัดการนำยาเสพติดเข้าพื้นที่
วันที่ 24 พ.ย.53 พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 กล่าวที่จังหวัดภูเก็ตถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดติดในพื้นที่ภาค 8 ภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเยาวชนสัมพันธ์ต้านภัยยาเสพติด รุ่นที่ 3/2553 ซึ่งสภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกับ อบต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต จัดขึ้นวันนี้ว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดนั้นขณะนี้ทุกฝ่ายมีความเป็นห่วง เนื่องจากการแพร่ระบาดมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่างที่ทำให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ยั่งยืน แม้ที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง และมีการกวาดล้างจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการแก้ปัญหายาเสพติดนั้นเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ตำรวจภูธรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งได้มอบหมายแนวทางการปฏิบัติให้กับหัวหน้าสถานีตำรวจและผู้รับผิดชอบด้านการปราบปรามยาเสพติดไปแล้ว
โดยมีเป้าหมายลดจำนวนผู้ติดยาโดยการนำผู้เสพหรือผู้ติดเข้าสู่ระบบการบำบัด และลดจำนวนผู้เสพผู้ติดรายใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจภูธรภาค 8 ก็ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและหลากหลายวิธีการ ทั้งการจับกุมผู้เสพ ผู้ติด ผู้ค้าและยึดทรัพย์ ซึ่งในปี 2553 ที่ผ่านมาในพื้นที่ภาค 8 มีการจับกุม ผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้มากถึง 20,000 ราย โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นเป็นจังหวัดต้นๆที่มีการจับกุมผู้ต้องหามากที่สุด โดยจับกุมได้สูงถึง 3,500 ราย
พล.ต.ท.ก่อเกียรติกล่าวต่อไปว่า สำหรับการกวาดล้างจับกุมนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ สิ่งสำคัญ คือ ความร่วมมือกันของภาคส่วนต่างๆ อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในเขตรับผิดชอบของภาค 8 นั้นก็มีความเป็นห่วงทุกพื้นที่ เนื่องจากมีลักษณะการแพร่ระบาดที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพของพื้นที่ ถ้าเป็นเมืองเศรษฐกิจ หรือแหล่งท่องเที่ยว การแพร่ระบาดส่วนใหญ่จะเป็นยาเสพติดที่มีราคาแพง เช่น ยาไอซ์ ยาบ้า ส่วนพื้นที่เศรษฐกิจไม่ดีนักก็จะเป็นในประเภทกระท่อม
ส่วนเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดนั้นนั้น พล.ต.ท.ก่อเกียรติกล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกพื้นที่เข้มงวดกวดขันอย่างเต็มที่ และที่ผ่านมาได้มีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นหลายฝ่ายมีความเป็นห่วงที่บริเวณด่านตรวจภูเก็ตเนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือที่จะใช้ในการตรวจจับที่มีประสิทธิภาพที่ผ่านมาอาศัยเพียงด้านการข่าวและกำลังเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นเท่านั้นทำให้ยาเสพติดสามารถเล็ดลอดไปได้
โดยขณะนี้ทางตำรวจได้เสนอขอรถตรวจเอกซเรย์ยาเสพติดมาใช้แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณในการบำรุงรักษาสูงแต่คุ้มค่าในแง่จิตวิทยาและผลการจับกุม คาดว่าจะนำมาประจำได้ประมาณเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
นอกจากนั้น ทาง ป.ป.ส.ก็ได้มีการตั้งด่านตรวจสกัดยาเสพติดถาวรที่รอยต่อบริเวณ จ.ชุมพร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอประกาศของคณะรัฐมนตรี เมื่อได้ทั้งสองส่วนประกอบกันก็จะทำให้สามารถสกัดเส้นทางลำเลียงจากภาคใต้ตอนบนเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตได้ระดับหนึ่งและยากขึ้น ขณะที่การหาข่าวขณะนี้ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น