ตร.กมลา จ.ภูเก็ต จับแก๊งลักรถ จยย.ในพื้นที่ ได้ผู้ต้องหา 1 คน ยึดรถของกลาง 15 คัน พร้อมป้ายทะเบียน 13 แผ่น เผยระยะเวลาเกือบ 2 เดือน ประชาชนแจ้งรถหายกว่า 20 คัน ขณะที่ผู้การภูเก็ต-ผู้กำกับ ฝากเตือนประชาชนจอดรถ จยย.ให้ล็อกคอรถให้เรียบร้อย
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฏฐภาคิน ขวัญชัยพฤษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกมลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายอธิวัฒน์ หรือเฟียส หรือบอย อุ่นเรือง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 6 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพหะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 15 คัน ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ถูกถอดออกจำนวน 13 ป้าย โครงรถจักรยานยนต์ รวมของกลางจำนวน 36 รายการ มูลค่าความเสียหายประมาณ 900,000 บาท
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกมลา ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีรถจักรยานยนต์หายบ่อยครั้ง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงสืบสวนหาข่าว และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นนายนิวัฒน์ จึงได้ขอหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 5/1 และบ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 6 ต.กมลา จากการตรวจค้น พบนายอธิวัฒน์ พร้อมรถจักรยานยนต์จำนวนหลายคัน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ที่ชำแหละแล้ว นอกจากนั้น ยังมีแผ่นป้ายทะเบียนอีกจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน คือนายดุล และนายกี้ โดยร่วมกันลักรถจักรยานยนต์ดังกล่าวมาจริง โดยมีพฤติกรรมเลือกขโมยรถจักรยานที่จอดไว้โดยไม่ได้ล็อกคอรถ หรือจอดรถจักรยานยนต์ไว้ในที่เปลี่ยวมีแสงสว่างไม่เพียงพอ หรือเสียบกุญแจไว้ โดยคนร้ายได้ดำเนินการมาระยะหนึ่ง และส่วนใหญ่ก่อเหตุในพื้นที่กมลา และป่าตอง เมื่อได้รถจักรยานยนต์มาแล้วจะนำมาเก็บไว้ และบางส่วนได้ชำแหละเป็นอะไหล่ และนำไปขายต่อให้แก่บุคคลอื่น
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน คือนายดุล และนายกี้ โดยร่วมกันลักรถจักรยานยนต์ดังกล่าวมาจริง โดยมีพฤติกรรมเลือกขโมยรถจักรยานที่จอดไว้โดยไม่ได้ล็อกคอรถ หรือจอดรถจักรยานยนต์ไว้ในที่เปลี่ยวมีแสงสว่างไม่เพียงพอ หรือเสียบกุญแจไว้ โดยคนร้ายได้ดำเนินการมาระยะหนึ่ง และส่วนใหญ่ก่อเหตุในพื้นที่กมลา และป่าตอง เมื่อได้รถจักรยานยนต์มาแล้วจะนำมาเก็บไว้ และบางส่วนได้ชำแหละเป็นอะไหล่ และนำไปขายต่อให้แก่บุคคลอื่น
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล และจับกุมต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ขอให้ระมัดระวังในเรื่องของการดูแลทรัพย์สิน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่นำไปจอดไว้ตามที่ต่างๆ ขอให้ล็อกคอรถให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ และจะต้องจอดในที่ที่มีแสงสว่าง มีคนเดินไปเดินมา และที่สำคัญ อย่าเสียบกุญแจรถไว้เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนร้ายก่อเหตุได้
เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ณัฏฐภาคิน ขวัญชัยพฤษ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกมลา กล่าวว่า อยากฝากเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง และดูแลทรัพย์สินของตัวเอง ซึ่งในส่วนของพื้นที่กมลานั้นมีประชาชนมาแจ้งรถหายเป็นจำนวนมาก 2 เดือนมีกว่า 20 คัน ส่วนใหญ่รถที่หายจอดไว้โดยไม่ได้ล็อกคอรถ และจอดไว้ในที่เปลี่ยว สำหรับคนร้ายที่จับกุมได้ในครั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ก่อเหตุในพื้นที่กมลา และมีก่อเหตุในพื้นที่ป่าตองจำนวน 2 คัน
เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ณัฏฐภาคิน ขวัญชัยพฤษ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกมลา กล่าวว่า อยากฝากเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง และดูแลทรัพย์สินของตัวเอง ซึ่งในส่วนของพื้นที่กมลานั้นมีประชาชนมาแจ้งรถหายเป็นจำนวนมาก 2 เดือนมีกว่า 20 คัน ส่วนใหญ่รถที่หายจอดไว้โดยไม่ได้ล็อกคอรถ และจอดไว้ในที่เปลี่ยว สำหรับคนร้ายที่จับกุมได้ในครั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ก่อเหตุในพื้นที่กมลา และมีก่อเหตุในพื้นที่ป่าตองจำนวน 2 คัน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น